ปัญหาที่ผู้ทำธุรกิจส่วนใหญ่ได้พบคือ การทำธุรกิจจำเป็นต้องหาผู้ร่วมธุรกิจแต่สิ่งที่ทำอยู่กลับทำให้คนวิ่งหนีคุณ มันเป็นความจริงที่เจ็บปวด ทั้งๆที่คุณไปเสนอสิ่งดีๆโอกาสดีๆทางธุรกิจให้กับเขาแท้ๆ แล้วเมื่อผู้คนวิ่งหนีคุณเช่นนี้ ธุรกิจจะเป็นเช่นไรในอนาคตละครับ .
เพราะอะไรทุกคนจึงวิ่งหนีคุณ ต้องคิดถึงความเป็นจริงก่อนครับ ทุกคนจะมีเกราะป้องกันตัวเองอยู่ทุกคนครับ เพราะทุกคนมีความกลัว กลัวจะถูกหลอก กลัวจะเสียเปรียบ กลัวจะกลายเป็นคนโง่ กลัวสารพัดจะกลัว จึงเกิดเกราะป้องกันตัวเองขึ้นมา แล้วจะเกิดคำถามในใจของคนที่คุณไปพูดคุยว่าถ้าเป็นอย่างที่คุณพูดจริงๆคุณก็เอาความสำเร็จมาให้ดูก่อนสิถึงจะเชื่อ !!! โอ้ก็ในเมื่อความสำเร็จในธุรกิจเช่นนี้มันต้องหาคนนี่ ถ้าไม่มีคนจะสำเร็จได้ยังล่ะ!
ทั้งๆที่คุณเอาสินค้าที่ดีๆไปเสนอก็แล้วพูดถึงรายละเอียดก็แล้วแต่ทำไมผู้คนถึงเบือนหน้าหนีคุณกันหมด ผมอยากให้คุณลองคิดกลับกันนะครับลองเขาเป็นเราและเราเป็นเขา
ยกตัวอย่างนะครับ
- ถ้าคุณไปเที่ยวกับเพื่อนๆแล้วเพื่อนในกลุ่มของคุณคุยแต่เรื่องธุรกิจคุณเองจะรู้สึกยังไงครับ
- เวลาไปหาญาติพี่น้อง ทั้งๆที่ปกติไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ เขากลับเอาแต่แนะนำผลิตภัณฑ์และเสนอโอกาสทางธุรกิจกับคุณ คุณชอบหรือไม่ครับ
- เล่นอินเตอร์เน็ตเจอแต่โฆษณา โอกาสทางธุรกิจ คุณจะปิดทิ้งหรือเปล่า
พอจะเข้าใจบ้างแล้วใช่มั้ยครับว่า สิ่งที่คุณคิดว่ามันเวิร์ค สิ่งที่คุณได้รับคำแนะนำจากที่ปรึกษาของคุณแนะนำมามันดีจริงอย่างที่คุณคิดหรือเปล่า ลิสต์ชื่อ 10,20,30,…100 คน แล้วโทรหาเขาชวนเขามา แนะนำสิ่งดีๆให้กับเขาบอกเขาว่าใช้ดีแล้วบอกต่อ!! เมื่อมันไม่เป็นอย่างที่คุณคิดคุณก็เริ่มจะต้องลงทุนในการจ่ายเงินซื้อพื้นที่โฆษณาตามเว็บเพื่อโปรโมต บางคนก็ซื้อรายชื่อมาโทรกันเลยแล้วก็แจกซีดี สิ่งที่คุณทำทั้งหมดเพราะคุณต้องการผลให้เขามาเข้าร่วมธุรกิจกับคุณแต่ มันกลับกลายเป็นการไล่เขาให้ไปไกลๆคุณโดยไม่รู้ตัว ระบบเช่นนี้เรียกว่าระบบไล่คน
นี่แหละครับคือเหตุผลว่าทำไมคนถึงไม่ประสบความสำเร็จในธุรกิจเช่นนี้ ได้น้อยกว่าเสีย สุดท้ายก็เข้าไปในวงจรอุบาทว์ในการทำธุรกิจ คือเปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆ เพราะบางคนอาจคิดว่าไม่สำเร็จเพราะเราไม่ได้เป็นต้นสาย จริงๆแล้วมันไม่ใช่เลยถ้าทำเช่นนี้ถึงไปที่ไหนๆก็จะล้มเหลวเช่นเดิม
ถึงไปที่ไหน แต่ก็ทำงานแบบเดียวกัน ใช้ระบบเดิมๆผลลัพธ์ก็ไม่แตกต่างกันหรอกครับ นั่นคือเหตุผลที่คนส่วนใหญ่เป็นกันแล้วก็เกิดสถิติที่ว่าผู้สำเร็จในธุรกิจนี้เพียงแค่ 1-5%
แล้วละบบไหนละที่จะไม่ทำให้คุณล้มเหลวอีกต่อไป นั่นคือระบบแบบ การตลาดแบบดึงดูดไงครับ แล้วดึงดูดอะไร....ดึงดูดสิ่งต่อไปนี้ไงครับ
- ดึงดูดคนที่เขาต้องการที่จะทำธุรกิจอยู่แล้ว การที่คุณจะเสนอธุรกิจให้ใครสักคน คนๆนั้นต้องมีความคิดที่ต้องการจะทำอยู่แล้วใช่มั้ยครับ เพราะเอาธุรกิจไปคุยกับคนทั่วๆ มันเหมือนคุยกันคนละเรื่อง
- ดึงดูดคนโดยคุณไม่ต้องยกหูโทรศัพท์หาใครเลย ไม่จำเป็นต้องออกจากบ้าน ไปคุยธุรกิจ เพราะคุณใช้ระบบอัตโนมัตในการทำงาน
- และคุณสามารถที่จะเลือกคนเพื่อมาร่วมธุรกิจกับคุณได้ คุณเองสามารถเลือกได้ว่าจะนำใครเข้ามาร่วมทำงานกับคุณมันจะดีแค่ไหนลองนึกภาพดูสิครับ
แล้วสิ่งที่ผมพูดไปมันเป็นไปได้จริงๆหรอ ถ้ามีจริงก็ดีสิ มันเหนื่อยแล้วนะทั้งต้องออกจากบ้านทุกวันเสียค่าโทรศัพท์ไปเป็น 100 เป็น 1,000 แล้วยังไม่ได้เลยซักคน ฉันท้อแล้วกับการถูกปฏิเสธ
ข่าวดีครับ ระบบได้ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว แล้วคุณจะได้เรียนรู้ มากขึ้นกับการทำการตลาดแบบ ดึงดูด
By อรรณพ เกษร
|