Worldprothai http://worldprothai.siam2web.com/




MLM Free Training

บทเรียนการทำธุรกิจMLM ออนไลน์

เผยเคล็ดลับที่คุณไม่เคยรู้

บทความที่ทำให้คุณไม่ล้มเหลวอีกต่อไป













 

อรรณพ  เกษร 

Email: annop122655@gmail.com



ข้อความที่ผมได้เขียนต่อไปนี้ผมได้เขียนเพื่อ...

ผู้ร่วมทางธุรกิจเครือข่ายทุกบริษัทที่ได้ประสบปัญหาที่ตนเองไม่รู้หนทางเดินต่อ

และสำหรับผู้ที่กำลังจะเดินทางในธุรกิจเครือข่าย หรือกำลังศึกษาธุรกิจอยู่แต่ยังขาดวิธีการ

ผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า สิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณนี้ จะสามารถช่วยให้ท่านไม่เดินหลงทางในการทำธุรกิจ

และสามารถช่วยให้ท่านไม่เหนื่อยใจกับการทำธุรกิจ เหมือนเช่นที่ผ่านมา





Website ที่เกี่ยวข้อง
 http://mlm88.blogspot.com/

ทุกบทความนี้ได้รับการสงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539.

*สนับสนุนการเปิดเว็บด้วย Mozlla FireFox เพื่อเข้าถึงข้อมูลอย่างครบถ้วน



(Root) grum.jpg

บทเรียนที่ 1 ปัญหาการทำธุรกิจ? 

 

    ปัญหาที่ผู้ทำธุรกิจส่วนใหญ่ได้พบคือ การทำธุรกิจจำเป็นต้องหาผู้ร่วมธุรกิจแต่สิ่งที่ทำอยู่กลับทำให้คนวิ่งหนีคุณ  มันเป็นความจริงที่เจ็บปวด  ทั้งๆที่คุณไปเสนอสิ่งดีๆโอกาสดีๆทางธุรกิจให้กับเขาแท้ๆ  แล้วเมื่อผู้คนวิ่งหนีคุณเช่นนี้ ธุรกิจจะเป็นเช่นไรในอนาคตละครับ .

    เพราะอะไรทุกคนจึงวิ่งหนีคุณ  ต้องคิดถึงความเป็นจริงก่อนครับ  ทุกคนจะมีเกราะป้องกันตัวเองอยู่ทุกคนครับ เพราะทุกคนมีความกลัว กลัวจะถูกหลอก กลัวจะเสียเปรียบ  กลัวจะกลายเป็นคนโง่  กลัวสารพัดจะกลัว จึงเกิดเกราะป้องกันตัวเองขึ้นมา  แล้วจะเกิดคำถามในใจของคนที่คุณไปพูดคุยว่าถ้าเป็นอย่างที่คุณพูดจริงๆคุณก็เอาความสำเร็จมาให้ดูก่อนสิถึงจะเชื่อ !!!  โอ้ก็ในเมื่อความสำเร็จในธุรกิจเช่นนี้มันต้องหาคนนี่ ถ้าไม่มีคนจะสำเร็จได้ยังล่ะ!  

ทั้งๆที่คุณเอาสินค้าที่ดีๆไปเสนอก็แล้วพูดถึงรายละเอียดก็แล้วแต่ทำไมผู้คนถึงเบือนหน้าหนีคุณกันหมด ผมอยากให้คุณลองคิดกลับกันนะครับลองเขาเป็นเราและเราเป็นเขา

ยกตัวอย่างนะครับ 

-           ถ้าคุณไปเที่ยวกับเพื่อนๆแล้วเพื่อนในกลุ่มของคุณคุยแต่เรื่องธุรกิจคุณเองจะรู้สึกยังไงครับ 

-           เวลาไปหาญาติพี่น้อง ทั้งๆที่ปกติไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ เขากลับเอาแต่แนะนำผลิตภัณฑ์และเสนอโอกาสทางธุรกิจกับคุณ คุณชอบหรือไม่ครับ 

-           เล่นอินเตอร์เน็ตเจอแต่โฆษณา โอกาสทางธุรกิจ คุณจะปิดทิ้งหรือเปล่า 

พอจะเข้าใจบ้างแล้วใช่มั้ยครับว่า สิ่งที่คุณคิดว่ามันเวิร์ค สิ่งที่คุณได้รับคำแนะนำจากที่ปรึกษาของคุณแนะนำมามันดีจริงอย่างที่คุณคิดหรือเปล่า ลิสต์ชื่อ 10,20,30,…100 คน แล้วโทรหาเขาชวนเขามา แนะนำสิ่งดีๆให้กับเขาบอกเขาว่าใช้ดีแล้วบอกต่อ!!  เมื่อมันไม่เป็นอย่างที่คุณคิดคุณก็เริ่มจะต้องลงทุนในการจ่ายเงินซื้อพื้นที่โฆษณาตามเว็บเพื่อโปรโมต  บางคนก็ซื้อรายชื่อมาโทรกันเลยแล้วก็แจกซีดี  สิ่งที่คุณทำทั้งหมดเพราะคุณต้องการผลให้เขามาเข้าร่วมธุรกิจกับคุณแต่ มันกลับกลายเป็นการไล่เขาให้ไปไกลๆคุณโดยไม่รู้ตัว ระบบเช่นนี้เรียกว่าระบบไล่คน 

          นี่แหละครับคือเหตุผลว่าทำไมคนถึงไม่ประสบความสำเร็จในธุรกิจเช่นนี้ ได้น้อยกว่าเสีย  สุดท้ายก็เข้าไปในวงจรอุบาทว์ในการทำธุรกิจ  คือเปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆ  เพราะบางคนอาจคิดว่าไม่สำเร็จเพราะเราไม่ได้เป็นต้นสาย จริงๆแล้วมันไม่ใช่เลยถ้าทำเช่นนี้ถึงไปที่ไหนๆก็จะล้มเหลวเช่นเดิม   

            ถึงไปที่ไหน แต่ก็ทำงานแบบเดียวกัน  ใช้ระบบเดิมๆผลลัพธ์ก็ไม่แตกต่างกันหรอกครับ  นั่นคือเหตุผลที่คนส่วนใหญ่เป็นกันแล้วก็เกิดสถิติที่ว่าผู้สำเร็จในธุรกิจนี้เพียงแค่ 1-5%

 

            แล้วละบบไหนละที่จะไม่ทำให้คุณล้มเหลวอีกต่อไป นั่นคือระบบแบบ การตลาดแบบดึงดูดไงครับ แล้วดึงดูดอะไร....ดึงดูดสิ่งต่อไปนี้ไงครับ 

-           ดึงดูดคนที่เขาต้องการที่จะทำธุรกิจอยู่แล้ว  การที่คุณจะเสนอธุรกิจให้ใครสักคน คนๆนั้นต้องมีความคิดที่ต้องการจะทำอยู่แล้วใช่มั้ยครับ เพราะเอาธุรกิจไปคุยกับคนทั่วๆ มันเหมือนคุยกันคนละเรื่อง 

-           ดึงดูดคนโดยคุณไม่ต้องยกหูโทรศัพท์หาใครเลย  ไม่จำเป็นต้องออกจากบ้าน ไปคุยธุรกิจ  เพราะคุณใช้ระบบอัตโนมัตในการทำงาน 

-           และคุณสามารถที่จะเลือกคนเพื่อมาร่วมธุรกิจกับคุณได้  คุณเองสามารถเลือกได้ว่าจะนำใครเข้ามาร่วมทำงานกับคุณมันจะดีแค่ไหนลองนึกภาพดูสิครับ 

แล้วสิ่งที่ผมพูดไปมันเป็นไปได้จริงๆหรอ  ถ้ามีจริงก็ดีสิ  มันเหนื่อยแล้วนะทั้งต้องออกจากบ้านทุกวันเสียค่าโทรศัพท์ไปเป็น 100 เป็น 1,000 แล้วยังไม่ได้เลยซักคน  ฉันท้อแล้วกับการถูกปฏิเสธ 

 

ข่าวดีครับ  ระบบได้ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว  แล้วคุณจะได้เรียนรู้ มากขึ้นกับการทำการตลาดแบบ ดึงดูด 

 

 

By  อรรณพ  เกษร

 


บทเรียนที่ 2 การทำตลาดแบบแรงดึงดูด 

 

มาถึงบทที่ 2 เราพอจะเข้าใจรูปแบบการทำการตลาดแบบ ไล่คนหนีไปบ้างแล้ว คราวนี้เรามาลอง ดู การทำการตลาดแบบดึงดูด ว่าเขาทำกันอย่างไร 

 

การทำการตลาดแบบดึงดุด เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่จะเข้ามาในเครือข่าย   

ยกตัวอย่าง  ถ้ามีคนที่ท่านจะเข้าร่วมทำธุรกิจเครือข่ายด้วย  อยู่ 2ประเภท ที่ทำธุรกิจตัวเดียวกัน  คนหนึ่งเข้าใจและเชี่ยวชาญธุรกิจเครือข่ายเป็นอย่างดี  กับอีกคนเป็นแค่คนทำการตลาดแบบทั่วๆไป  

คุณจะเลือกเข้าร่วมกับใครครับ  แน่นอนคุณก็ต้องเข้าร่วมกับผู้เชี่ยวชาญธุรกิจแน่ๆใช่มั้ยครับ  คนอื่นๆก็ต้องคิดอย่างคุณเช่นกัน  คนมักจะเลือกคนที่เป็นผู้นำที่คิดว่าจะทำให้คุณประสบผลสำเร็จเสมอ  แรงดึงดูดนี้ความเชื่อมั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องสร้าง  ไม่ใช่เชื่อมั่นในตัวบริษัทหรือแผนการตลาด  แต่เป็นความเชื่อมั่นของคนอื่นต่อตัวท่านเองตางหาก 

 

เพราะฉะนั้น  คุณควรหยุดโฆษณา โอกาสทางธุรกิจเสียทีครับ  เพราะแทนที่คุณจะดึงคนเข้ามาร่วมธุรกิจกลับเป็นการไล่เขาออกจากระบบของคุณ   และกลายเป็นโฆษณาขยะตามเว็บต่างๆ  เหมือนที่คนอื่นๆเขาทำกัน  แต่สิ่งที่ท่านควรทำคือโปรโมตความเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจให้กับเขา  เปลี่ยนจากผู้ล่าให้เป็นผู้ถูกล่า  เป็นบุคคลที่ผู้คนต่างถวิลหาอยากจะเจอ  คราวนี้ท่านก็จะกลายเป็นแม่เหล็กขนาดใหญ่ที่ที่ดึงดูดผู้คนเข้ามาคุณเองและคุณจะเข้าสู่การเป็นนักการตลาดแบบดึงดูดเต็มตัว 

 

 

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ท่านเข้าใจระบบการดึงดูดได้ไม่มากก็น้อยนะครับ 

 

By อรรณพ  เกษร

บทเรียนที่ 3 มนุษย์แม่เหล็กกับการนำมาใช้ในธุรกิจเครือข่าย 

 

บทนี้ผมจะมาบอกวิธีการที่จะนำการตลาดแบบดึงดูดมาใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจเครือข่าย 

 

อย่างที่ผมบอกไปเมื่อ 2 บทความที่แล้ว การที่เราจะประสบความสำเร็จนั้นเราต้องเสนอหรือโปรโมตความเป็นมืออาชีพของตัวคุณเอง  จนสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้คน  ผ่านเครื่องมือต่างๆของเราที่ใช้โปรโมตตัวเอง  คนจะรู้จักเราในฐานะผู้เชี่ยวชาญทางด้านเครือข่าย  เมื่อนั้นคุณจะเป็นเหมือนแม่เหล็กตัวใหญ่ที่ดึงดูดคนเข้ามา 

 

สิ่งสำคัญของธุรกิจเครือข่ายขั้นแรกคือ การหารายชื่อผู้ที่สนใจ  ลืมวิธีเก่าๆไปได้เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการลิสต์รายชื่อ คนที่รู้จัก หรือลงโฆษณาตามเว็บต่างๆ  และสิ่งสำคัญที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งคือการสแปร์มเมล์  เพราะนั่นคือคุณก้าวเข้าสู่การทำผิดกฎหมายอยู่  แต่เมื่อคุณทำการตลาดแบบแรงดึงดูดคุณก็เปรียบเสมือนมนุษย์แม่เหล็กที่จะดึงผู้คนเข้ามาหาคุณเอง  คุณไม่จำเป็นต้องโทรหา  หรือต้องมานั่งลิสต์รายชื่ออีกต่อไป  เพราะเขาจะเป็นฝ่ายพุ่งเข้าหาตัวของคุณเอง  ด้วยความเป็นผู้เชี่ยวชาญของคุณและเชื่อมั่นในตัวคุณ  และงานของคุณจะเป็นการคัดเลือกผู้ที่สนใจจะสำเร็จในธุรกิจและต้องการจะเรียนรู้ คนที่สนใจว่าท่านกำลังจะเอ่ยอะไรออกมา 

 

สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการติดตาม  คนส่วนใหญ่มันจะติดตามโดยการโทรศัพท์  เพราะเป็นการโต้ตอบทันที  จริงครับว่าโทรศัพท์ไวจริง  แต่ปัจจัยที่เขาจะรับฟังหรือสนใจจะคุยกับคุณมีหลายอย่างครับ  ตอนที่คุณโทรไปคุยกับเขาเป็นไปได้ว่าตอนนั้นเขาอาจจะไม่ว่างกำลังยุ่งอยู่  หรือตอนนั้นอารมณ์เขาไม่ดีอยู่  สัญญาณโทรศัพท์ไม่ดี  และอื่นๆอีกมากมาย 

ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่ที่ทำให้เกิดความล้มเหลวได้โดยง่าย  ถึงคุณเองจะเป็นมืออาชีพขนาดไหนมีวิธีพูดที่ดีขนาดไหนก็ตาม  และยังถูกจำกัดเรื่องเวลาอีก  ซึ่งผลในการคุยจะออกมาอย่างไรก็ยังไม่ทราบ  บางรายชื่อคุณโทรไปเขาก็ไม่สนใจรังแต่จะจะทำให้คุณท้อใจ  แม้กระทั่งคนที่สนใจแต่ก็ยังไม่ตัดสินใจ  ท่านจะจะโทรตามคนเหล่านั้นได้กี่ครั้งกัน  และสุดท้ายก็ต้องทิ้งรายชื่อนั้นทิ้งไปทั้งๆที่หารายชื่อได้มาอย่างลำบาก  เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นกันการทำธุรกิจเครือข่ายแบบเก่าๆที่คุณพบเจอกันอยู่ใช่มั้ยครับ  วิธีติดตามของระบบการตลาดแบบดึงดูดคือระบบ Email Marketing เป็นวิธีติดตามที่ทรงอานุภาพมากที่สุดคือติดตามผลผ่านทางEmail คุยจะไม่ต้องเหนื่อยกับการคุยกับคน  เราจะถูกคนที่สนใจจริงๆโทรมาหา หรือส่งเมล์มาถามมาคุยกับคุณเอง  เห็นมั้ยครับการทำเช่นนี้ง่ายกว่าเยอะ  ท่านก็สามารถให้ข้อมูลในแบบระบบที่ท่านมีอยู่ได้เลย  คนที่สนใจจะได้รับเมล์จากระบบที่ส่งไปหาเขาเรื่อยๆตามที่ท่านต้องการ (การส่งเมล์อย่างนี้ถูกกฎหมายครับ)  คุณเองจะไม่เสียรายชื่อที่หามาได้อย่างลำบากไปฟรีๆ เพราะถ้าท่านมีรายชื่อเยอะๆการใช้ระบบติดตามเช่นนี้จำเป็นมากครับ เพราะคุณคงไม่อยากจะใช้วิธีโทรศัพท์หาคนจำนวนมากๆอย่างเดียวคงไม่ไหวใช่มั้ยครับ

 

ปัจจุบันนี้การใช้ระบบEmail Marketing  เริ่มนำมาใช้กันเยอะมากขึ้นเพราะถือเป็นหัวใจของการทำการตลาดแบบดึงดูดได้ดีทีเดียว  เพราะเป็นการสร้างความน่าเชื่อมั่นของคนอื่นในความเป็นมืออาชีพของคุณ

 

ข้อสำคัญสุดท้ายคือการปิดการขายในการทำธุรกิจเครือข่ายนั้นก็จะมีการปิดการขาเช่นกัน  เห็นมั้ยครับว่าการนำการตลาดแบบดึงดูดมาใช้ในธุรกิจเครือข่ายนั้นสอดคล้องกัน  หน้าที่จริงๆชองคุณเพียงแค่ปิดการขาย และรับสมัครคนเพียงเท่านั้น  เมื่อท่านเป็นมนุษย์แม่เหล็กแล้วท่านเองไม่จำเป็นต้องโน้มน้าวใจอะไรเลย หน้าที่เพียงแค่ดูว่าเขาจริงจังแค่ไหน  ถ้าเขาไม่จริงจังก็ปฏิเสธเขาไป  เพราะคุณจะรู้ว่าถ้าเขาไม่จริงจังก็จะเสียเวลาเปล่าๆ  และคุณจงสอนการตลาดแบบที่ท่านทำอยู่กับคนที่เข้าร่วมกับคุณ 

 

เป็นยังไปครับต่อไปบริบทของคุณจะเปลี่ยนไปจากเป็นผู้ล่ากลับกลายเป็นถูกล่าแทนแล้ว

 

By  อรรณพ  เกษร

บทเรียนที่ 4 การสร้างความสัมพันธ์อันดี

 

องค์ประกอบสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์อันดีคือการแนะนำตนเอง  เป็นสิ่งจำเป็นนะครับ  การที่เราจะรู้จักคนอื่นคือคุณต้องบอกว่าคุณเป็นใครก่อน  จากนั้นความสัมพันธ์ถึงจะเกิดขึ้นมาได้  หลังจากความสัมพันธ์เกิดขึ้นแล้วคุณก็แสดงถึงศักยภาพความเป็นมืออาชีพของคุณเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้อื่นได้ 

 

การสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นนั้นก็สามารถทำได้ในสังคมออนไลน์  เช่นมีเว็บไซต์  เป็นของตนเองและเนื้อหาภายในนั้น  ไม่ควรเกี่ยวของกับการขาย หรือโอกาสทางธุรกิจแอบแฝง  เพราะจะเป็นการสร้างความอึดอัด  บทความในนั้นควรจะเป็นการแก้ปัญหา  หรือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์  ในการทำเช่นนี้เองจะทำให้ท่านสามารถสร้างรายชื่อกลุ่มคนที่สนใจในตัวคุณขึ้นมาได้  นอกจากเว็บไซต์แล้ว ช่องทางอื่นๆก็สามารถทำได้ไม่ว่าจะเป็น Facebook  Youtube  Twister  Hi5  เป็นต้น   

 

ข้อควรระวังในการสร้างความสัมพันธ์นั้นผมอยากจะเน้นเรื่องการแอบแฝงสิ่งอื่นที่นอกเหนือจากการสร้างประโยชน์หรือแก้ปัญหาให้กับเขาเพราะ  นั่นจะทำให้ท่านอาจเสียเพื่อนในเครือข่ายไปในที่สุด  เพราะคุณกำลังจะเข้าไปในวงจรเดิมๆที่คนเหล่าต้องนั้นหนีมา   

 

เมื่อเราสร้างความสัมพันธ์กับเขาแล้วเขาได้เข้าใช้ในเว็บไซต์ของคุณและต่อไปเขาก็จะมาเป็นสมาชิกคนหนึ่งในเว็บไซต์คุณและลงทะเบียนกับคุณ  คุณเองก็สามารถที่จะติดต่อกับเขาได้เพราะนั่นหมายถึงเขาอนุญาตที่จะให้เราติดต่อกับเขาได้แล้ว  อาจจะฟังดูง่ายนะครับแต่ก็ต้องใช้เวลาและความใส่ใจอย่างมากในการสร้างความสัมพันธ์   แต่ผลลัพธ์มันก็มหาศาลเช่นกัน 

 

เราควรการสร้างความสัมพันธ์อันดีนั้นไว้นะครับ บางทีคนที่เขามาที่เว็บไซต์คุณและได้ดูบทความที่คุณคอยแก้ปัญหาและช่วยเหลือเขา  ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะได้เขามาร่วมเครือข่ายโดยไม่ต้องเปลืองแรง  และอีกอย่างคนเหล่านั้นเขามีทักษะที่สูงกว่าคนที่ไม่เคยทำระบบนี้มาก่อนแน่นอนครับ 

 

 

By  อรรณพ  เกษร 


บทเรียนที่ 5 การใช้ Auto mail ในการสร้างความสัมพันธ์

 

Auto mail หรือ Email Marketing นั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการติดตามหรือสร้างความสัมพันธ์ต่อผู้มุ่งหวังของคุณ  เมื่อผู้มุ่งหวังของคุณให้ความไว้วางใจกับคุณและความเชื่อมั่นแล้ว  แต่ความสัมพันธ์นั้นก็ยังไม่แน่นแฟ้นพอที่เขาจะมาร่วมธุรกิจกับคุณหรอกครับคุณจำเป็นที่ต้องให้ความสำคัญในตัวของเขาอีก  เหมือนการที่คนเราเจอหน้ากันทุกๆวัน นะแหละครับ  เมื่อเจอกันทุกวันแล้วความสัมพันธ์จะยิ่งดีขึ้น  การทำเช่นนี้ถ้าเกิดคุณไม่ใช้ระบบAuto Email เข้ามาช่วย  คุณต้องเจอกับงานหนักแน่ๆเพราะคุณจะต้องมาส่งเมล์เองกับทุกๆคนที่มากขึ้นทุกๆวันก็คงเป็นไปไม่ได้  และถ้าวันไหนไฟดับ  น้ำท่วม  หรือเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่คุณไม่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ละ  คุณจะไล่โทรไปหาทุกๆคนหรอ  และถ้าโทรไปแล้วเขายังไม่พร้อมหรือยังไม่มั่นใจในคุณพอคุณต้องถูกปฏิเสธอย่างแน่นอน  และคุณก็จะกลับมาท้อกับรายชื่อที่คุณได้มาอย่างยากลำบากแต่กลับถูกปฏิเสธภายในไม่กี่นาทีและรายชื่อนั้นคุณก็ต้องตัดใจทิ้งไป 

 

ระบบAuto mail  จะมาช่วยคุณในเรื่องนี้  เพราะถ้าผู้มุ่งหวังคุณพร้อมที่จะทำธุรกิจเขาจะจะส่งสัญญาณมาหาคุณเอง   แต่คุณต้องทำให้ถูกต้องถูกวิธีนะครับเพราะการส่งเมล์โดยที่เจ้าตัวเขาไม่ต้องการนั้นคุณเองกำลังทำผิดกฎหมายอยู่   คุณต้องให้เขามาสนใจในตัวคุณและอนุญาตให้คุณติดต่อเขาไปเสียก่อน  และเขาเองก็ต้องสามารถที่จะหยุดรับข้อมูลต่างๆได้ถ้าเขาไม่ต้องการ  ฉะนั้นคนที่เขาอนุญาตให้คุณติดต่อเขาได้ก็เหมือนคุณได้กรองคนที่สนใจในตัวคุณจริงๆอีกขั้นหนึ่งแล้ว  และเป็นการบอกเขาว่าคุณมีความเป็นมืออาชีพและสร้างความศรัทธาให้กับเขาอีกทางหนึ่งเหมือนกัน   แต่สิ่งที่ผมอยากย้ำให้ทราบอีกครั้งคือ  ข้อความที่คุณส่งไปหาเขานั้นแฝงการขายของหรือขายธุรกิจอย่างเดียวหรือไม่  ไม่มีใครอยากจะถูกขายหรอกครับ   คุณต้องไตร่ตรองดีๆกับข้อความเหล่านั้นต้องตรวจสอบว่ามันเวิร์คจริงๆหรือไม่  หรือเป็นข้อความที่ทำให้เขาหนีคุณ

 

 

 

By  อรรณพ  เกษร


บทเรียนที่ 6 เพราะอะไรจึงต้องโปรโมทตัวเอง

 

สิ่งที่ผมพยายามจะบอกและอธิบายให้ฟังก็คือ  สิ่งที่ผมเน้นให้โปรโมทตัวเองและแสดงสิ่งที่เป็นมืออาชีพเพราะ  บริษัททุกบริษัททุกวันนี้แต่ละบริษัทก็จะมีจุดดีจุดเด่นแตกต่างกันไปเพราะฉะนั้น  ถ้าจะให้เราไปพูดถึงบริษัทแผนการตลาด หรือ ตัวผลิตภัณฑ์  คงเถียงกันไม่มีวันจบแน่ๆเพราะแต่ละคนก็ต้องพูดว่าบริษัทที่ตัวทำอยู่นั้นดีที่สุดแต่สิ่งที่แตกต่างกันไปนั้นก็คือ  ทีมและตัวคุณเองตางหากครับ ทีมและผู้นำทีมสำคัญมากเพราะสิ่งที่จะทำให้คุณสำเร็จนั้นอยู่ที่แผนการทำงานของทีมงานของคุณมากกว่า  อย่างเช่นทุกอย่างดีแผนการตลาดดีผลิตภัณฑ์ดี  แต่ไม่อำนวยนำการทำงาน  คุณจะสำเร็จได้อย่างไรครับและที่สำคัญส่วนมากจะที่ปรึกษาของคุณมักพูดว่างานไม่ยากแค่ใช้ดีแล้วบอกต่อ  สิ่งนั้นแหละครับอันตรายมาก!!  เพราะที่ปรึกษาคุณเองก็ไม่ได้เตรียมแผนการทำงานให้คุณ  คุณเองอาจจะมองว่าง่ายแค่ใช้ดีแล้วบอกต่อไม่ได้ขายอะไรซักหน่อย  แต่จุดนั้นแหละครับ คุณเองจะไปบอกต่อใคร  และบอกต่อเขา จะทำกับคุณหรือไม่  และที่ว่าทำงานวันละไม่กี่ ช.ม.เอง  ผมลองทำมาแล้วครับ  เวลาแทบทั้งหมดจะมุ่งไปหาลูกค้า บอกแผนการตลาด เสนอโอกาสดีๆทดลองสินค้าให้เขาดู  อย่างที่ผมเคยพูดไว้คนเราจะมีเกราะป้องกันตัวเองอยู่  ทุกอย่างไม่ง่ายอย่างที่คิดแน่นอนครับและคุณก็ต้องเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลาและยังต้องมาเสียใจท้อแท้กับสิ่งที่คุณลงทุนไป  ผมไม่ได้บอกว่าวิธีนี้มันไม่ดีนะครับแต่มันเป็นวิธีที่ดีสำหรับบางคนและบางช่วงยุคสมัยเท่านั้น   เพราะทุกคนมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป  บางคนเป็นคนกล้าแสดงออก บางคนมีฐานเงินที่ดี บางคนรู้จักคนเยอะ นี่คือสิ่งที่เลียนแบบกันไม่ได้ง่ายๆ แต่สิ่งที่ที่ปรึกษาของคุณกำลังจะบอกคุณคือสิ่งนี้แหละครับสิ่งที่เลียนแบบกันไม่ได้ง่ายๆสิ่งนั้นแหละ

 

ฉะนั้นสิ่งที่คุณต้องโปรโมทไม่ใช่บริษัทแต่เป็นตัวของคุณเอง  เพราะตัวคุณเองถ้ามีแผนการทำงานที่เหมาะสมไม่ว่าคุณจะอยู่ที่บริษัทไหนเขาก็ต้องติดตามคุณไปแน่เพราะเขาเชื่อแน่ๆว่าถ้าอยู่กับคุณจะต้องสำเร็จ  แต่ผมไม่ได้บอกว่าไม่ต้องดูบริษัทและแผนการตลาดหรือผลิตภัณฑ์นะครับ  สิ่งนั้นก็จำเป็นเหมือนกัน   เพราะต้องดูว่าเขาจ่ายคุณอย่างยุติธรรมหรือไม่  และจ่ายยังไงคุ้มกับตัวคุณหรือเปล่าต้องดูด้วยนะครับ

 

 

By  อรรณพ  เกษร 


บทเรียนที่ 7 อย่าทำการตลาดที่ฝืนธรรมชาติ

 

ธรรมชาติมนุษย์นั้นจะใช้อารมณ์เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจในครั้งแรกที่พบอยู่เสมอ  อารมณ์นั้นจะมีอยู่ 2 อย่างคือ รัก และ กลัว    

อารมณ์รักคือ  การชอบสิ่งใดสิ่งหนึ่ง  ความปราบปลื้มปิติยินดี  ความสุข  การได้ช่วยเหลือแบ่งปัน  การดึงดูด  

-  กลัว คือ  ระบบป้องกันตนเองที่เห็นว่าไม่ต้องการ  การผลักใส  ความอิจฉาริษยา  ความเห็นแก่ตัว  การกลัวที่จะเสียผลประโยชน์  ความเศร้า  ภาวะความกลัวของมนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนมีและเลือกเองว่า  สิ่งนั้นเป็นความกลัวสิ่งนี้คือความรัก  คนเรามักหลีกเลี่ยงความกลัว  เช่น  คนทำธุรกิจเครือข่ายเลือกที่จะอยู่เฉยๆไม่ทำงาน  เพราะกลัวที่จะถูกปฏิเสธ  

 การ ทำการตลาดแบบไม่ฝืนธรรมชาติ  คือ  คนเราไม่ชอบถูกขาย  คุณลองนึกภาพตอนที่คุณยืนเลือกของที่ห้างสรรพสินค้าสิครับ  ถ้าคุณกำลังดูสินค้าอยู่จู่ๆพนักงานก็เดินตรงเข้ามาหาคุณ  คุณรู้สึกอย่างไรครับ  เลี่ยงจากพนักงานใช่มั๊ยครับ  เพราะคุณเองคิดว่าถ้าวันไหนอยากจะซื้อสินค้านั้นจริงๆหรือพร้อมจะซื้อก็จะมา ซื้อเองนะแหละ  วันนี้เพียงมาดูเฉยๆไม่ได้อยากจะซื้อ  

 เห็น มั๊ยครับคนเรานั้นไม่ชอบที่จะให้ผู้อื่นมากดดันหรือเร่งเร้าสิ่งต่างๆ  แต่ในสิ่งที่นักธุรกิจเครือข่ายหลายๆท่านกำลังทำอยู่ก็คือการเร่งเร้าการ สร้างความกดดันให้กับผู้มุ่งหวัง  เช่นไปเสนอสินค้ากับเพื่อนๆแนะนำสินค้า  ทั้งขายทั้งเสนอโอกาสทางธุรกิจโดยที่เขาเองก็ยังไม่พร้อมและไม่รู้ข้อมูลรวม ทั้งวิธีการทำงานเลยด้วยซ้ำ  แต่บางคนสนิทๆกันก็อาจจะเกรงใจเราและก็มักพูดว่าอืม  น่าสนใจ”  และราคาสมัครก็ราคาไม่แพงก็เลยสมัครไปอย่างนั้นไม่ได้ทำอย่างจริงจังต่อ  แต่บางคนอาจรุนแรงถึงขั้นเสียเพื่อนไปเลยก็มีเพราะไม่อยากจะคุยด้วย  

 ธรรมชาติ ของคนนั้น ไม่ชอบง้อใคร  ไม่ชอบขาย  และไม่ชอบให้ถูกขาย  ท่านผู้อ่านครับถามหน่อยครับท่านมาทำธุรกิจเครือข่ายนี้ท่านชอบขายหรือเปล่า ครับชอบง้อคนมั๊ย  และลองมองสิ่งที่ที่ปรึกษาคุณสอนและสิ่งที่คุณทำอยู่สิ  ท่านกำลังง้อคนหรือกำลังโน้วน้าวเขาอยู่หรือไม่  

  

การ ทำการตลาดแบบไม่ฝืนธรรมชาติคือ  การที่ท่านไม่ต้องไปง้อใคร  เพราะคนที่ท่านกำลังสร้างความสัมพันธ์อยู่นั้นต้องการมันอยู่แล้ว  และสิ่งที่ท่านให้เขาก็คือวิธีการหรือกำลังแก้ปัญหาให้เขาได้ไม่ใช่โน้มน้าว ใจให้เขาสนใจ   ตัวอย่างนะครับ  ท่านเป็นพ่อค้าขายหมูที่เป็นพ่อพันธ์เกรด แต่ท่านกลับไปขายให้กับกลุ่มคนที่เป็นอิสลาม  แม้หมูของท่านจะดีเริ่ดขนาดไหนก็คงขายไม่ออกใช่มั๊ยครับ  สิ่งที่ท่านต้องคิดคือท่านมีหมูพ่อพันธ์เกรดAอยู่ ในมือเพียงแค่ท่านไปขายคนที่เขาต้องการหมูพ่อพันธ์อยู่ท่านก็สามารถ ขายออกอย่างง่ายดาย  นั่นก็คือท่านต้องเข้าให้ถูกกลุ่มครับ เข้าผิดกลุ่มแม้ของจะดีขนาดไหนก็ไม่มีใครสนใจครับ  

 ฉะนั้นการทำการตลาดแบบไม่ฝืนธรรมชาติสิ่งแรกก็คือ    

1. ท่านต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมาย    

2. ท่านมีสินค้าที่เขาต้องการหรือไม่  

3. ท่านต้องวางกลยุทธ์ในการทำการตลาดต่อบุคคลเหล่านั้นได้  

 เป็น อย่างไรครับการตลาดแบบไม่ฝืนธรรมชาตินั้น  เราเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องง้อใครใช่มั้ยครับ  เขาเองก็ไม่รู้สึกว่าถูกขาย  สิ่งสุดท้ายที่ผมจะขอฝากไว้ก็คือ  การเรียนรู้คือสิ่งสำคัญการเรียนรู้คือบันไดอีกขั้นที่จะมุ่งสู่ความสำเร็จ นะครับ  พยายามทบทวนสิ่งที่ผมเขียนไว้ให้ศึกษาอย่างสม่ำเสมอนะครับ  แล้วท่านจะไม่หลงทางในการทำธุรกิจของท่านเอง  แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปนะครับ  

  

  

By  อรรณพ  เกษร 


>>NEXT PAGE>>

Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 22,327 Today: 6 PageView/Month: 113

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...